ข้อดีของการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่คนรุ่นใหม่ต้องโดน!!

รถยนต์ไฟฟ้า

ด้วยค่าใช้จ่ายหรือค่าครองชีพที่แพงขึ้น สวนทางกับรายได้ในบางคนนั้น ย่อมต้องเกิดคำถามและหาทางในการประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของค่าน้ำมันและการเดินทางนั้นเอง บทความนี้เลยอยากจะพาทุกๆ ท่านไปศึกษาเกี่ยวกับ “ข้อดีของการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่คนรุ่นใหม่ต้องโดน!!”  ที่หลายๆ ท่านอาจจะสนใจกันครับ พร้อมกับแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจเผื่อไปด้วยเลยครับ เราไปชมกันเล้ยย!!!

รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์ที่มีระบบสันดาปภายใน โดยรถ EV จะใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้ารูปแบบอื่นที่สามารถชาร์จไฟได้ ซึ่งเปลี่ยนพลังงานจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อน โดยข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เกิดแรงบิดได้ทันที ส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีอัตราเร่งที่เรียบและรวดเร็ว ต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่ต้องใช้การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเพื่อการขับเคลื่อน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

  • รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV)
  • รถยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEV)
  • รถยนต์ไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV)
  • รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV)

ข้อดีและข้อเสียของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

  • ข้อดี รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามีความเงียบและอัตราเร่งสูง โดยเจ้ารถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และสามารถทำให้มีอัตราเร่งเป็นไปได้อย่างที่ใจต้องการเนื่องจากไม่ต้องมีการเปลี่ยนรอบเกียร์
  • ข้อเสีย หลักแล้วนั้นก็คือเรื่องของค่าใช้จ่ายในช่วงแรกเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นราคารถก็ดี แท่นชาร์จหรือบริการการบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้านั้นจะมีมูลค่าสูงกว่ารถทั่วๆ ไปอย่างแน่นอนครับ

3 รุ่นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่น่าโดน!!!

1. Tesla Model Y Performance ราคา 2,509,000 บาท

Tesla Model Y รุ่น Performance จะมีพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. แบทเตอรีความจุ 75 กิโลวัตต์ชั่วโมง แล่นได้ไกลสุดเมื่อชาร์จแบทเตอรีเต็ม 582 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์

Tesla Model Y  เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ครอสส์โอเวอร์ขนาดกลาง โครงสร้างตัวถังใช้ร่วมกับรุ่นซีดาน นั่นคือ MODEL 3 (โมเดล 3) ตัวถังของ MODEL Y จะมีความหนามากกว่าเล็กน้อย แม้เส้นสายโดยรวมจะเน้นความโค้งมน เรียบหรู หลังคาทรงโค้งมีความสูงค่อนข้างมาก ในรุ่นทอพ PERFORMANCE (เพอร์ฟอร์มานศ์) ติดตั้งล้อแมกขนาดใหญ่ถึง 21 นิ้ว ขณะที่รุ่นย่อยอื่นๆ นั่นคือ REAR-WHEEL DRIVE ขับเคลื่อน 2 ข้อหลัง ใช้ล้อแมกขนาด 19 นิ้ว และรุ่น LONG RANGE (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) ใช้ล้อแมกขนาด 20 นิ้ว ขณะที่ตัวถังแบบสีดำไม่ต้องเพิ่มเงินพิเศษ แต่หากเป็นสีอื่นๆ ต้องเพิ่มเงินอีก 15,000 บาท (ระบุในการสั่งจองทางออนไลน์)

2. BYD SEAL เริ่มต้นเพียง 1,325,000 -1,599,000 บาท

BYD SEAL รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยจะแบ่งออกเป็น 3 รุ่น ตามข้อมูลด้านล่าง

Dynamic ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่วางอยู่ที่คู่ล้อหลังให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรีความจุ 61.44kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด (DC) ที่ 110 kW ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ระยะทางไกลสุด 510 กม. ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที

รุ่น Premium ที่ยังคงมากับมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยวที่ล้อหลังเหมือนกับในรุ่นเริ่มต้น แต่ปรับมห้มีพละกำลังมากขึ้นโดยมีกำลังอยู่ที่ 313 แรงม้า แรงบิดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 360 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที มาพร้อมแบตเตอรีความจุ 82.56kWh รองรับการชาร์จไฟฟ้าสูงสุด (DC) ที่ 150 kW ขาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 650 กม. ตามมาตรฐาน NEDC

Performance จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว คู่หน้าให้กำลัง  214 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ส่วนคู่หลังให้กำลัง 390 แรงม้า แรงบิด 360 นิวตันเมตร ให้กำลังรวมสูงุสด 530 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Blade ขนาด 82.56kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งไกลสุด 580 กม.ตามมาตรฐาน NEDC

3. Neta V ราคาเปิดตัวที่ 549,000 บาท

Neta V รถไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบค เปิดตัวด้วยราคาน่าสนใจที่ 549,000 บาท (จากส่วนลดพิเศษจากภาครัฐ โดยมีราคาเต็มๆ ที่ 760,000 บาท) รูปทรงพริ้วไหว ได้รับแรงบันดาลใจจาก ปลาโลมา มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. แบทเตอรีความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง (รองรับการชาร์จทั้งแบบ AC และ DC) ระยะทำการสูงสุดที่ 380 กม. (มาตรฐาน NEDC) นอกจากนี้ยังมีระบบ V2L : Vehicle To Load จ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้ รองรับสูงสุด 3,300 วัตต์

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูล “ข้อดีของการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่คนรุ่นใหม่ต้องโดน!!” พร้อมกับแนะนำ 3 รุ่นรถยนต์ที่น่าสนใจ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่านกันนะครับ

You May Also Like

เช็คช่วงล่างรถ

แนวทางการเช็คช่วงล่างของรถยนต์ที่ต้องเรียนรู้

ซื้อขายรถยนต์

ข้อควรระวังหากเซลล์ขายรถ ส่งรถให้เราไม่ตรงที่ต้องการ

รถมือสอง

หลักการเลือกรถมือสอง

รถกอล์ฟ

รถกอล์ฟ มีดีมากกว่าแค่ขับในสนาม