Society

การออกแบบกราฟิก เป็นงานที่สำคัญในการออกแบบและขั้นตอนการผลิตสื่อ โดยเฉพาะสื่อที่ต้องรับรู้โดยการใช้การมองเห็น เช่นโฆษณา ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ วารสาร ฉลากบรรจุภัณฑ์ หรือฉลากสินค้าต่างๆ เป็นต้น งานออกกราฟิกมีหลายประเภท ทั้งการออกแบบเพื่อคุณค่าทางความงาม เพื่อการติดต่อสื่อสาร และการออกแบบเพื่อประโยชน์ใช้สอย ดังนั้นงานออกแบบกราฟิกจึงมีให้เห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน           ผู้ที่สนใจหางานออกแบบกราฟิกย่อมต้องการข้อมูลของช่องทางการหางาน ว่ามีช่องทางไหนบ้าง และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เราจึงจะยกตัวอย่างช่องทางการหางานกราฟิกที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ และข้อดีข้อเสียของแต่ละช่องทางในการหางาน ดังนี้ การไปสมัครงานด้วยตนเอง บริษัทกราฟิกในไทยมีหลายบริษัท แต่ว่าการเปิดรับสมัครงานมีไม่มากและไม่บ่อยนัก ข้อดีของการไปสมัครงานเองคือการเห็นสถานที่จริงอาจมีการเรียกสัมภาษณ์และทดสอบความสามารถเลยในทันที แต่ข้อเสียคือเปลืองเวลาและค่าเดินทาง ถ้าถูกนัดสัมภาษณ์วันอื่นก็ต้องเดินทางใหม่อีกรอบ รับทำงานเองหรือก็คือการเป็นฟรีแลนซ์นั่นเอง ปัจจุบันวิธีนี้เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก ข้อดี เป็นนายตัวเอง เลือกรับงานเองได้ เล่นเกมหรือนอนระหว่างวันได้ อยากทำงานตอนไหนก็ทำ ไม่มีเจ้านายมาคอยบ่น มีอิสระทางการเงิน ทำงานที่ไหนก็ได้ที่อยากทำ ข้อเสีย ถึงการเป็นฟรีแลนซ์จะมีข้อดีมากมายแต่ข้อเสียก็มากตามไปด้วยเช่นกัน คือ ต้องตัดสินใจและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งในเรื่องการเสนองานกับลูกค้า การกำหนดขอบเขตการทำงาน การต่อรองราคา การเป็นฟรีแลนซ์ไม่มีเงินโบนัส หรือการขึ้นเงินเดือน บางทีอาจจะมีปัญหาเช่นเดือนนี้งานเยอะจนรับทำไม่หมดแต่บางเดือนไม่มีงานให้ทำ เงินที่ได้ขึ้นอยู่กับความขยันของตนเองว่าทำงานได้แค่ไหนทำให้มีสภาพการเงินที่ไม่แน่นอน ไม่มีประกันสังคม ต้องทำเรื่องเสียภาษีเอง การแก้ไขงานที่ไม่จบไม่สิ้น ถ้าคุณป่วยจนทำงานไม่ได้ก็คือการขาดรายได้เพราะฟรีแลนซ์ไม่มีลาหยุดหรือเงินชดเชยให้ และการหางานออกแบบกราฟิกทั้งหลายยังมีการแข่งขันที่สูง หากคุณไม่มีความน่าเชื่อถือหรือเพิ่งเริ่มก็อาจจะทำให้ไม่มีใครจ้างงานการสมัครผ่านเว็บไซต์จัดหางานออนไลน์ ข้อดีคือทำได้สะดวก รวดเร็ว ไม่เสียเวลาเดินทางและไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สามารถหางานได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอินเตอร์เน็ต ข้อเสียคือ ถ้าคุณประวัติไม่โดดเด่นหรือเรซูเม่ไม่มีความน่าสนใจคุณจะถูกมองข้ามได้ง่าย หรือเรซูเม่ถูกกลืนหายไปกับคนอื่นๆที่หางานออกแบบกราฟิกเหมือนกัน และนี่ก็คือช่องทางและข้อดีข้อเสียของการ หางานออกแบบกราฟิก ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกช่องทางไหนที่คิดว่าเหมาะสมกับคุณในการหางานหรือช่องทางการหางานแบบไหนที่คุณสนใจ

Read More

เด็กจบใหม่ ถึงเริ่มทำงานถือเป็นการเปลี่ยนผ่านของชีวิตในอีกขั้นหนึ่ง เพราะคุณจะต้องมาดูแลตัวเองแบบเต็มตัว ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะมีครอบครัว อาจารย์ หรือ เพื่อน ๆ คอยเตือน คอยให้คำปรึกษา เพราะเมื่อคุณได้มาอยู่ในวัยทำงานแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องเจอเลยก็คือ การวางแผนชีวิตในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การแบ่งเวลาชีวิต สุขภาพ และ อื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงเรื่องการเงิน ที่จะต้องจัดการให้ดี ไม่เช่นนั้นคงเกิดอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องไปหยิบยืม หรือ กูยืมต่าง ๆ ให้เป็นเรื่องปวดหหัวตามมา ด้วยปกติเด็กจบใหม่จะมีฐานเงินเดือนอยู่ในเรทเริ่มต้น จึงไม่แปลกที่เด็กจบใหม่หลายคนจะมีปัญหาเรื่องการเงินกัน วันนี้เราจึงรวมรวมเทคนิคการเก็บเงินมาฝากน้อง ๆ ที่พึ่งจบใหม่ หรือ จะเป็นคนทำงานแล้วแต่ยังเก็บเงินไม่ได้สักที ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ข้อแรกเลยก็คือ การทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งเป็นหัวใจสสำคัญของการเก็บเงินเลยก็ว่าได้ เพราะการทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น จะทำให้คุรมองเห็นภาพรวมการใช้เงิน และ รายรับของคุณว่าสอดคล้องกันไหม รวมถึงทำให้คุณสามารถวางแฟนการใช้เงินได้ดีขึ้น เพราะคุณจะสามารถตัดรายจ่ายที่ฟุ่มเฟือยออกได้ง่าย ๆ ดังนั้นหากใครยังไม่ทำรายรับรายจ่าย อย่าลืมกลับไปทำกันนะคะ แล้วการเก็บเงินจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เปิดหลายบัญชี ข้อต่อมาคือ คุณต้องเก็บเงินหลายบัญชี โดยกำหนดไว้ตายตัวเลยว่าบัญชีไหนสำหรับทำอะไร เช่น คุณอาจจะเปิดสัก 5 บัญชี โดยบัญชีแรกไว้เป็นเงินใช้จ่ายทั่วไป (ค่ากิน ค่ารถ) บัญชีที่สองเป็นเงินเก็บแบบระยะยาว (อาจจะเปิดบัญชีฝากประจำ หรือ เอาเงินไปซื้องกองทุนรายเดือน) บัญชีที่สามเป็นบัญชีเงินสำหรับการลงทุนในอนาคต บัญชีที่สี่ เป็นบัญชีค่าบริการต่าง ๆ (ค่าหอพัก ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต) บัญชีที่ห้า เป็นบัญชีสำหรับซื้อของขวัญให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว การศึกษา หรือ ของที่เราอยากได้ เมื่อคุณมีรายได้เข้ามาสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือ แบ่งเงินตามสัดส่วนที่วางแผนเอาไว้ไปที่บัญชีธนาคารต่าง ๆ  โดยจำนวนของบัญชีนั้นก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนของคุณ คุณอาจจะมีบัญชีน้อยกว่านี้ หรือมากกว่านี้ก็ได้ ไม่ผิด           เพียงเท่านี้คุณก็สามารถวางแผนการเงิน และ มีเงินเก็บได้ไม่ยาก เพราะจริง ๆ แล้วหากเรารู้จักเก็บเงิน และ วางแผนการเงิน รายได้จะมาจะน้อยอย่างไร เราก็ใช้พอ ...

Read More

Characters of people holding positive emoticons illustration ทุกวันนี้ทุกคนมักมองหาความสุข จากความสมบูรณ์แบบในชีวิต แต่กว่าจะได้ความสมบูรณ์แบบนั้นมาก็ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัสเลยทีเดียว กับความพยายามต่างๆ นานา การยึดติดที่ทำให้เราไม่มีความสุข มันเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกคนจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่หากว่ามันเบียดเบียนกับความสุขของเรา เราก็ควรจะปล่อยวางลงเสียบ้าง ชีวิตของเราเกิดมาครั้งเดียวก็อย่าให้เป็นทุกข์มากนัก ลองคิดและหาวิธีที่จะทำให้เรามีความสุขโดยปราศจากความสมบูรณ์แบบดูบ้าง อาจจะดีกับตัวเราเองก็ได้นะ วันนี้ลงมาฝึกให้ตัวเองใช้ชีวิตแบบสบายๆ โดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดๆ          ฝึกมองตัวเองให้เล็ก หมายความว่า จงใช้ชีวิตให้ตัวเองเป็นเพียงคนธรรมดา อย่าไปยึดติดว่าเราคือคนที่สำคัญ เราไม่ใช่ศูนย์กลางของโลก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมีใครมาเอาใจเรา เพราะถ้าหากเรายึดว่าเราเป็นคนสำคัญ แล้วผลตอบรับมันไม่ใช่แบบที่เราตั้งไว้ ก็คงทำให้เรารู้สึกแย่ได้ ดังนั้นเป็นคนธรรมดา ที่รู้ผิดชอบชั่วดีเนี่ยแหละ สบายใจที่สุด          ฝึกให้เป็นคนที่นิ่งทั้งใจกาย เคยได้ยินไหมว่า “นิ่งสงบ สยบทุกปัญหา” ซึ่งชีวิตเป็นแบบนั้นได้จะดีต่อเรามากขึ้น ถ้าอะไรไม่ดีก็อย่าไปพูดมาก  ไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด เช่น เมื่อพบเจอคนที่นินทาคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว เราทำได้เพียงแค่นิ่ง สงบ ไม่ร่วมไปกับเขา รับฟังแต่ไม่คิดตาม เท่านี้ก็ไม่มีปัญหาที่จะผลกระทบมาต่อตัวเราทีหลังแล้วล่ะ หรือแม้กระทั่งคนที่โดนนินทานั้นเป็นตัวเราเอง ไม่ต้องตอบโต้ ไม่ต้องแก้ตัวใดๆ แค่นิ่ง จำไว้เสมอว่า เราไม่สามารถอธิบายเรื่องราวของชีวิตของเราให้ทุกคนเข้าใจได้ และก็ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายด้วย ดังนั้น ใครอยากจะคิดอะไรก็ให้เขาคิดไป ช่างเขา ชีวิตเขา เราแค่ทำชีวิตให้ดีต่อไปเท่านั้นเอง          ฝึกให้เป็นคนยอมรับความจริง ความจริงที่ว่ามันคือความสุข ความทุกข์ ข้อดี ข้อเสีย ข้อผิดพลาดต่างๆ เพียงแค่เรายอมรับความจริงได้ มันก็คงไม่มีปัญหาอะไรที่หนักหนา หากแต่ว่าเราต้องการแก้ไขให้มันดีให้มันถูกต้องและไม่ยอมรับความจริง มันก็คงไม่มีความสุข เราจะมีความทุกข์กับความพยายามเหล่านั้น          ฝึกใช้ชีวิตต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อกหัก รักคุด เพื่อนหักหลัง แล้วเรายังหายใจอยู่ไหมล่ะ ก็มีลมหายใจอยู่นี่ ไม่เห็นจะเป็นอะไรมากมาย ก็แค่ใช้ชีวิตต่อไป เกิดมาเพื่อใช้ชีวิต ใช้ชีวิตเพื่อตัวเราเอง อย่าเอาชีวิตไปผูกติดไว้ที่ใคร หรือสิ่งใด หนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขรุขระ เป็นเหวลึกสักเพียงไหน ถ้าไม่ตายก็ต้องลุกขึ้นก้าวเดินต่อ เพื่อใช้ชีวิตของเราต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม

Read More

ท้องฟ้าทุกวันอย่างเปลี่ยนสี มีหรือที่ชีวีจะไม่เปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าทุกชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่มีอะไรที่มั่นคงอยู่เสมอไป ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ในการเปลี่ยนงานก็เช่นกัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาตนเองมากขึ้น เราไม่สามารถอยู่กับที่เดิม ตำแหน่งเดิมๆ ไม่มีความก้าวหน้า ทุกคนมักแสวงหาจุดเปลี่ยนที่นำชีวิตเราไปสู่ในทางที่ดีขึ้นเสมอ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เนื้องานเสมอไป การใช้ชีวิตในที่ทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งในที่ทำงาน ถ้าหากเราไม่ได้มีความสุขกับที่ทำงาน การทำงานของเราจะมีความสุขหรือ ดังนั้นลองมาดูวิธีที่จะปรับตนเองให้กับเข้ากับเพื่อนร่วมงานโดยพี่ไม่เบียดเบียนหรือจุกจิกเขามากจนเกินไป เริ่มต้นสิ่งดีๆด้วยการกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะบันได ในลิฟท์ หรือหน้าตู้เย็น ก็สามารถกล่าวประโยคสวัสดีสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มหวานๆ สักทีก็ไม่เสียหายอะไร หรือทักทายทำความรู้จักก่อน เพราะคนที่ทำงานใหม่ก็อยากรู้จักคุณเหมือนกัน แค่นี้ความตึงเครียดของการไม่รู้เขารู้เราก็บรรเทาไปเยอะ แล้วก็วางตัวเป็นมิตรกับทุก ๆ คนด้วยการทักทายพูดคุยเรื่องทั่วไป หรือแนะนำตัวว่าเป็นใครมาจากไหน พร้อมฝากเนื้อฝากตัวเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีไว้ก่อนเลยมีมารยาท สุภาพอ่อนโยน ไม่ว่าใครรุ่นพี่ หรือรุ่นน้อง ผู้ใหญ่หรือเด็กกว่า มักชอบคนที่มีมารยาทกันทั้งนั้น กับผู้ใหญ่วางตัวเป็นเด็กที่ไม่ก้าวร้าว กับรุ่นน้องแสดงมารยาทโดยการทำตัวเป็นที่น่าเคารพนับถือ ไม่วางมาดให้ตนเองดูน่าเกรงขาม การพูดจาก็เช่นกัน สังคมไทยเป็นสังคมที่ชื่นชอบหางเสียง แค่พูดทุกประโยคให้ติดคำว่า ครับ/ค่ะ ก็คงจะไม่ยากจนเกินไป คิดบวกให้มากกว่าคิดลบ ลองสังเกตดูสิว่าคนที่คิดบวก จะมีพลังงานบางอยู่ที่ดึงดูดผู้คนเข้าหาอยูเสมอ หรือการเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่าย ไม่ถืออคติที่มากจนเกินไป ก็สามารถอยู่ร่วมกับที่ทำงานใหม่ได้อย่างง่ายดาย เป็นผู้ฟังที่ดี ในการทำงานมักการขอความคิดเห็นอยู่เสมอ คนที่มีความมั่นใจและยอมรับผลตอบรับนั้นได้ ก็สามารถสามารถแสดงความเห็น หรือให้ข้อแนะนำได้เลย แต่หากว่าใครที่ยังไม่มีความมั่นใจ ยังมีความกังวลอยู่บ้าง เราขอแนะนำให้ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี จดจำข้อมูลรายละเอียดที่ควรรู้ให้ได้มากที่สุด และหากทำงานยังไม่ได้ ลองพยายามดูอีกสักครั้ง ก่อนที่จะวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ข้อนี้ต้องใช้การสังเกตเป็นอย่างดี โดยการสังเกตต้องไม่ใช่การจับผิด และค่อยๆ สังเกต ไม่ใช่การจ้องเขม็งจะทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดใจ การสังเกตในที่นี้หมายถึงว่าให้สังเกตการทำงาน ไลฟ์สไตล์ของเพื่อนร่วมงานว่าเขาทำงานกันอย่างไร สื่อสารหรือส่งงานกันอย่างไร แล้วค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นๆ จะได้ลดระยะห่างระหว่างตัวเราและเพื่อนร่วมงานท่านอื่นๆ การเริ่มงานใหม่อาจมีหลายอย่างที่ติดขัด ไม่ราบรื่น แต่อย่าเพิ่งท้อใจไป เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่เราทำได้นั่นคือการตั้งสติเรียบเรียงความคิด ค่อย ๆ ปรับตัวไปเรื่อย ๆ ทีละนิด แล้วเดี๋ยววันหนึ่งเมื่อคุณเข้าใจวัฒนธรรมองค์กร เข้าใจลักษณะงาน เข้าใจหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน คุณจะมีความสุขกับการทำงานมากยิ่งขึ้น

Read More